สหรัฐพึ่งจุดชนวนสงคราม "อาวุธนิวเคลียร์ไม่เป็นเรื่องจะเจรจาต่อรอง" เกาหลีเหนือกล่าว

   โสมแดงจะไม่ยอมจำนนต่อปัญหาอาวุธนิวเคลียร์ภายใต้เงื่อนไขใดๆ" รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือเน้นยํ้า, ตั้งแต่สหรัฐจุดชนวนสงครามและดังนั้นสหรัฐควรยุติการกระทำที่ไม่เป็นมิตรก่อน
"
   "ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาผู้กระหายวาทการดูถูกระหว่างผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน และปฏิกริยาการคุกคามของกองทัพหลายต่อหลายครั้ง นั่นคือสิ่งที่จุดชนวนสงคราม" เอกอัครราชฑูตแห่งกรุงเปียงยาง รียองโฮ กล่าวต่อหน่วยข่าวรัสเซียในการสัมภาษณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
   ด้วยเหตุฉะนี้ "คลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ของเราจะยับยั้งการรับประกันความสงบสุขและปลอดภัยในภูมิภาคนี้และความถูกต้องของเกาหลีเหนือที่มีอยู่และการพัฒนา" รีกล่าว
   "ในการอนุมัติการลงโทษ กำหนดโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ยังก่อให้เกิดความเป็นปรปักษ์ของสหรัฐต่อเกาหลีเหนืออีกด้วย" นักการฑูตกล่าวและยังเสริมว่าสหรัฐกำลังพยายามรวบรวมชาติภายใต้การนำของสหรัฐเพื่อกระชับการยับยั้ง
   

"ในตอนนี้สหรัฐกำลังดำเนินการอนุมัตินโยบายการต่อต้านประเทศทั้งคู่ - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี และ รัสเซีย, ในขณะเดียวกันก็กำลังพยายามให้รัสเซียเข้าร่วมการต่อต้านเกาหลีเหนือระหว่างความไม่ลงรอยกัน" เจ้าหน้าที่กล่าว

รัสเซียได้เตือนเกาหลีเหนือหลายครั้งเกี่ยวกับการเพิ่มแรงกดดันให้หยุดแผนขีปนาวุธนิวเคลียร์ผ่านการอนุมัติที่จะนำมาซึ่งการเผชิญหน้า--- ต่อ


ผู้นำของเกาหลีเหนือจะอยู่ต่อไปได้ไม่นาน - ทรัมป์กล่าว

 ----  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่ามกลางสงครามปากที่ไม่มีวันจบสิ้นระหว่างโสมแดงและสหรัฐนณะที่การคุกคามทำลายซึ่งกันและกัน
   "การก่ออาชญากรรมทางทหารดังกล่าวเป็นเรื่องสิ้นคิด มันคือจุดจบแห่งความตายซึ่งสามารถนำมาซึ่งการสูญเสียประชาชนและภัยพิบัติระดับโลก มันไม่มีวิธีการที่จะยุติปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ บันทึกว่าเป็นบทสนทนาที่ปลอดภัย" ประธานาธิบดีวลาดีมีย์ ปูติน กล่าวในเดือนกันยายนหลังจากไม่กี่วันที่เกาหลีเหนือดำเนิดการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่หก
   "แม้พวกเขาจะกินหญ้าพวกเขาก็จะไม่ยุติแผนการตราบเท่าที่พวกเขาจะรู้สึกไม่ปลอดภัย" ปูตินกล่าวเสริม
   เกาหลีเหนือเผยแพร่ท่าทางที่เป็นปกติ เมื่อครั้งที่วิทยุกระจายเสียงคลื่น FM กล่าวยํ้าตำแหน่งในประเทศของเขา นั่นเป็นเงื่อนไขสำหรับการเจรจาระหว่างเปียงยางและวอชิงตัน "ควรที่จะละทิ้งนโยบายที่ไม่เป็นมิตรและการคุกคามทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ" สหรัฐกล่าว
   สหรัฐอเมริกา, อย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฎการพยายามที่จะเจรจากับเปียงยางระหว่างที่เลขาธิการ สเตท เรก ทิลเลอร์สัน ได้ระบุว่าวอชิงตันทำการเจรจาต่อรองกับเกาหลีเหนืออย่างเต็มที่ ทรัมป์อ้างว่าหัวหน้านโยบายการต่างประเทศของเขาได้พูดอย่างง่ายๆว่า "เสียเวลาในการพยายามเจรจากับ มนุษย์จรวดน้อย" ในความหมายที่กล่าวถึง คิม จอง อึน
   ทรัมป์ทวีตในสัปดาห์ล่าสุดที่ผ่านมาว่าการคุยกับเกาหลีเหนือใดๆนั้นไร้จุดหมาย เสียเวลา รวมถึงเงินจำนวนมาก และหนึ่งเดียวที่เป็นไปได้คือปฏิกริยาทางกองทัพตอบโต้อีกครั้งหนึ่ง
   ทางที่เป็นไปได้คือการติดต่อตรงไปยังเกาหลีกับกรุงโซล สอดคล้องกับ รี แต่หนึ่งเดียวที่เกาหลีใต้จะดำเนินนโยบายแทนที่จะทำตามสหรัฐอย่างตาบอด
   "ตราบเท่าที่เกาหลีใต้ใช้การอนุมัติและกดดันต่อเรา, ดำเนินตามนโยบายของสหรัฐ, เราเห็นการไม่ให้ความเคารพสำหรับการเยียวยาความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลี" เขากล่าว
   เกาหลีใต้เริ่มการเคลื่อนไหวทางทหาร ดำเนินแผนการซ้อมรบกับสหรัฐและชาติพันธมิตรในภูมิภาคนี้, การปฏิบัติอย่างเคารพเกาหลีทั้งสองเป็นไปไม่ได้
   จากความคล่องตัวของกองทัพ, โซลยังยํ้าการคุกคามเปียงยางด้วยการปะทะ เป็นนัยว่าเป็นแผนการกำหนดผู้นำระดับสูงของเกาหลีเหนือ
   เมื่อวันอังคาร เครื่องบินรบ F-15 ของเกาหลีใต้ร่วมกับเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียง B-1B ของสหรัฐอเมริกาจากเกาะกวมเพื่อนำการซ้อมรบการยิงขีปนาวุธอากาศสู่พื้นบนคาบสมุทรเกาหลี
   ท่ามกลางพยัคฆ์ที่ตื่นตัว, มอสโกวและปักกิ่งได้ทำการลงโทษที่เรียกว่า "การแช่แข็งสองเท่า" เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ไซโนรัสเซียน หรือความสัมพันธ์ระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียกับจีนที่มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2534 หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ข้อเสนอต่อเกาหลีเหนือต่อเกาหลีเหนือให้ระงับโครงการขีปนาวุธและการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ตอบโต้การซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐอเมริกาที่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐถือโอกาสแสดงแสนยานุภาพของกองทัพในภูมิภาค

                                   ข้อมูลจาก https://www.rt.com/news/406418-us-lit-war-fuse-north-korea/
 

ความคิดเห็น